บทความ

ความจงรัก...และความภักดี

รูปภาพ
ไม่อาจแสวงหาคำพูดใดมาเอ่ยพรรณากับภาพนี้ได้...

แลดูอย่างช้างมอง....ปัจฉิมทัศนะ

แลดูอย่างช้างมอง ...หมายถึง  ทรงหันพระองค์กลับหลังอย่างที่พญาช้างมอง คือ พญาช้างไม่อาจจะเอี้ยวคอมองข้างหลังได้  ต้องหันกลับทั้งตัวฉันใด  พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้น  เพราะพระอัฏฐิก้านคอเป็นชิ้นเดียวกันไม่มีข้อต่อ จึงไม่อาจจะเอี้ยวพระศอมองข้างหลังได้    การมองครั้งนี้ เรียกว่า ปัจฉิมทัศนะ .. (การมองครั้งสุดท้าย) วิเคราะห์  ในคราวที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปยังเมืองเวสาลี แล้วถูกมารขอให้เสด็จดับขันธปรินิพพาน หลังจากนั้น พระองค์เสด็จออกจากเมือง แล้วหันกลับมาทอดพระเนตรเมืองเวสาลีเป็นครั้งสุดท้าย        เวลานั้นช่างน่าเศร้ายิ่งนักครับ มีแต่ความสลดหดหู่ไปทั่ว เพราะพระองค์ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า หลังจากนี้ไปอีก ๓ เดือนก็จะเสด็จปรินิพพานแล้ว         เปรียบเหมือนช่วงเวลานี้ เดือน ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้าอีกครั้ง เพราะเราท่านทั้งหลายกำลังจะส่งเสด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ร.๙ ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐

ชีวิตต้องดำเนินต่อไป....

ต้องขออภัยท่านผู้อ่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องห่างหายไปเสียนาน สำหรับพระไตรปิฏกวิเคราะห์ เนื่องจากมีกิจธุระอันจำเป็นที่จะต้องสะสางให้เรียบร้อย         และตอนนี้ก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว....ก็ขอเชิญชมนะกาละบัดนี้เทอญ...... พระมหาสุพัตร์  วชิราวุโธ

ภิกษุที่มีปกติอยู่คนเดียวและ ภิกษุที่มีปกติอยู่กับเพื่อน..?

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี...    ครั้งนั้น พระมิคชาละภิกษุ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า.... ภิกษุชื่อว่า มีปกติอยู่ผู้เดียว และชื่อว่ามีปกติอยู่กับเพื่อน ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ ... พระผู้มีพระภาคเจ้า ตอบว่า.......                         ภิกษุเพลิดเพลิน เชยชม  ยึดติดรูปนั้นอยู่ เกิดความเพลิดเพลิน แล้วก็เกิดความกำหนัด มีเมื่อความกำหนัด ก็มีความเกี่ยวข้อง ภิกษุประกอบด้วยความเพลิดเพลินและความเกี่ยวข้อง เราเรียกว่า "ผู้มีปกติอยู่กับเพื่อน"                     (ภิกษุมีปกติยู่คนเดียวก็ตรงกันข้ามจากข้อความนี้่และจะ                                                                              อธิบายครั้งต่อไป) วิเคราะห์ ...

ขนมกุมมาส...

รูปภาพ
ขนมกุมมาส   หมายถึงขนมที่เก็บไว้นานเกินไปจะบูด  เช่น  ขนมด้วง ขนมครก  ขนมตาล  เป็นต้น  พระพุทธเจ้าหลังจากบำเพ็ญทุกกรกิริยาก็เสวยข้าวสุกและขนมกุมมาส วิเคราะห์     น่ากินมาก...ขอสักห่อนะ....... พระธรรมปิฏก.พจนนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์, ๒๕๓๗, หน้า ๒๐

กิจที่ควรทำ..

รูปภาพ
กิจที่ควรทำ หมายถึง กิจในอริยสัจ ๔ คือ  การกำหนดรู้ทุกข์ การละเหตุแห่งทุกข์  การทำให้แจ้งซึ่งความดับทุกข์ และการอบรมมรรคมีองค์  ๘  ให้เจริญ   วิเคราะห์       พระพุทธองค์ทรงประสงค์กิจที่ควรทำ คือกิจในอริยสัจ ตามที่กล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่ากิจในอริยสัจนั้นเป็นเรื่องของจิต ซึ่งถูกโลภะ โทสะและโมหะ เข้ามาในสภาวะของจิต ทำให้จิตไขว้เขว ออกนอกทาง สำหรับนักปฏิบัติ ซึ่งนักปฏิบัติเองจะต้องรู้จักหน้าที่ ตามเฝ้ามองจิต ตามดูจิต แต่ไม่บังคับจิต..       หากจะปรับเข้ากับชีวิตประจำวัน ได้แก่ การรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง และดีที่สุด ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เพราะเราไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ไม่รับผิดชอบหน้าที่ กิจที่ควรทำในบ้านกลับไม่ทำ และอื่นๆอีกมากมาย หากแต่ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว บอกได้เลยว่า....สบายยยย....ขอบอก. ที.สี.อ. ๑/๒๔๘/๒๐๓

ไปดีแล้ว......

รูปภาพ
สุคโต คือ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ทรงดำเนินรุดหน้าไป ไม่หวนคืนกลับมาหากิเลสที่พระองค์ทรงละได้แล้ว และเมื่อพระองค์เสด็จไปที่ไหน ที่แห่งนั้นก็มีแต่ความสุขทั้งกายและใจ วิเคราะห์       คำว่า สุคโต เป็นอีกหนึ่งพุทธคุณ และเป็นพระนามของพระพุทธเจ้า เราทั้งหลายเมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้ว ควรจะดำเนินรอยตามพระศาสดา คือ ไปที่แห่งไหนก็ทำคุณประโยชน์ให้เกิดแก่ชาวบ้าน ให้เกิดแก่หมู่บ้าน เพราะการทำเช่นนี้ ถือว่าประโยชน์นิยมในมุมมองของศาสนา นึกถึงคนส่วนมากที่ได้รับประโยชน์จากการกระทำนี้       หากจะมีบางคน บางกลุ่มไม่พอใจ เพราะเสียผลประโยชน์ ก็จงอย่าละการทำความดี ทำประโยชน์เลย ขออนุโมทนาและให้กำลังใจกับท่านผู้มีจิตและการกระทำที่เป็นสาธารณะทุกท่านนะครับบบบบ... สู้ต่อไป...ทาเคชิ สํ.สฬา ๑๐/๓๔๑/๓๕๘